เขี้ยวเสือโคร่ง



เขี้ยวเสือโคร่ง


           เขี้ยวเสือโคร่ง มีลักษณะหลายขนาด มีทั้งขนาด เล็ก ใหญ่ ขึ้นอยู่ก็อายุของเสือโคร่ง ซึ่งถ้าเสือโคร่งอายุมาก เขี้ยวเสือก็จะยาวใหญ่ แข็งแรง และมีความขลังมากขึ้น ลักษณะเขี้ยวจะยาว เรียว ปลายเขี้ยวแหลมคม แต่ถ้าเราผ่าเขี้ยวเสือโคร่งดู ตรงกลางของเขี้ยวจะเป็นโพง รู โปร่ง โดยวิธีการตรวจสอบว่าเขี้ยวเสือโคร่งเป็นของจริงหรือไม่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของขลังจะใช้ ไฟแช็คลนที่เขี้ยวเสือโคร่งที่ต้องการตรวจสอบ ถ้าดมแล้วได้ กลิ่น เสือ ถือว่าผ่าน เป็นเขี้ยวเสือโคร่งของแท้


คาถาเพิ่มความขลังของ เขี้ยวเสือโคร่ง จะต้อง ท่องนะโม 3 จบ (เพื่อนมัสการพระพุทธเจ้า)


นะโมตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ  ภะคะวะโต  อะระหะโต  สัมมาสัมพุทธัสสะ


เริ่ม  คาถาเพิ่มความขลังของ เขี้ยวเสือโคร่ง

อะนิ  ทัสสะ  นะอัปปะฏิ
อะนิ  ทัสสะ  นะอัปปะฏิฆา
อะนิ  ทัสสะ  นะอัปปะฏิตายะ




---จบ---










***แชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับ ความขลังของ เขี้ยวเสือโคร่ง***

        ความเล้นลับของสิ่งต่าง ๆ ที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ในโลกใบนี้มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน โดยสิ่งเล้นลับ ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ และ ผ่านการพิสูจน์ มาด้วยตัวเอง ผู้ที่จะแชร์ประสบการณ์ ความขลังของเขี้ยวเสือโคร่ง แกชื่อ ลุงเปลว    แกได้เขี้ยวเสือโคร่ง มาจากตาของแก ตาของแกให้เขี้ยวเสือโคร่ง หลังจากลุงเปลวสึกออกจากพระแล้ว ลุงได้ห้อยเขี้ยวเสือโคร่งไว้บนคอตลอดเวลา ทุกครั้งที่ลุงเปลว ออกจากบ้าน ลุงแกจะท่องคาถาเพิ่มความขลังของเขี้ยวเสือโคร่งตลอด เพื่อให้เขี้ยวเสือโคร่ง ปกป้องให้ลุงเปลวรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง เพราะว่าภัยที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร ทางที่ดีควรป้องกันไว้ก่อนตามกำลังของขลังที่มีอยู่ติดตัว


         ลุงเปลวเล่าว่า เขี้ยวเสือโคร่งอันนี้แกได้มาตอนที่ ตาของแกเป็นนายพรานอยู่ในป่า และ เสือโคร่งตัวนี้ สะกดรอยตามหลังตา กับ เพื่อนพรานของตา มาอยู่ ห่าง ๆ เพื่อหวังจะล่าฆ่าใครสักคนเป็นอาหาร แล้วตาก็ได้ เจอกับเจ้าเสือโคร่งตัวนี้อย่าง จัง ๆ ยากที่คิดจะหนีได้ มีทางเดียวคือต้องสู้หลังชนผาอย่างเดียว เจ้าเสือโคร่งตัวนั้น อยู่ห่างจากตา ประมาณ 20 เมตร  เจ้าเสือโคร่งกำลังกระโจนวิ่งเข้าหาตาเพื่อจะตะโป๊ป และ ขย้ำคอ หวังฆ่าตาให้ตาย ตาได้ใช้ปืนผาหน้าไม้ที่อยู่ในมือยิ่งสวนเข้าไป 1 นัด โดนช่วงท้องของเสือจัง ๆ  และตาได้ ล้วงเข้าไปในย่ามที่พกติดตัว แล้วหยิบมีด ปาใส่เสือโคร่ง โดนช่วงท้องอีกครั้งหนึ่ง เสือตัวนั้นก็ได้ตายลง     เมื่อเพื่อนพรานของตามาเห็น ก็ขอแบ่งเขี้ยวเสือ หนังเสือ และ หนังหน้าผากเสือ โดยตาได้เขี้ยวเสือมา 1 เขี้ยว  แล้วได้นำเขี้ยวเสือโคร่งที่ได้ไปทำการปลุกเสกคาถาอาคมตามพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิและความขลัง  ป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงให้แคล้วคลาด ทุกครั้งที่ตา กับ เพื่อนเข้าป่า จะพกเขี้ยวเสือโคร่ง ติดตัวไปด้วยทุก ๆ ครั้ง และ ทุกครั้ง ก็จะรอดชีวิต กลับมา แม้จะมีเพื่อนายพรานบางคนต้องตายในป่าก็มี เพราะถูกสัตว์ร้ายฆ่าตาย แต่ตาแกรอดกลับมาด้วยทุกครั้ง  เมื่อตาแกแก่มีอายุมากขึ้นแกก็เลิกอาชีพพรานป่าล่าสัตว์ เขี้ยวเสือโคร่ง ก็ไม่ได้มีความจำเป็นกับตา อีกแล้ว ตาแกจึงให้เขี้ยวเสือโคร่งอันนี้แก่ลุงเปลว เพื่อให้พกติดตัวเอาไว้เป็นของขลังป้องกันตัว และ ตั้งแต่ลุงเปลวพกเขี้ยวเสือโคร่งติดตัวก็ไม่ค่อยได้เจอกับเหตุการณ์ หรือ เภทภัยใด ๆ ที่เป็นอันตราย กับ ลุงเปลวสักครั้ง ยิ่งทำให้ลุงเปลวมีความเชื่อมั่นว่าเขี้ยวเสือโคร่งที่ลุงแกพกอยู่นี่เป็นของขลังจริง ๆ โดยเขี้ยวเสือโคร่งจะมีความขลังมากน้อยอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับคนที่พกไว้ติดตัวแต่ละคนด้วยว่าเป็นคนมีความปพฤติดี อยู่ในศีลธรรม ก็จะได้พบแต่สิ่งดี ๆ ของขลังที่พกติดตัวก็จะคุ้มครองปกป้องจากเภทภัยที่จะเกิดขึ้นได้.




---สาธุ---

Share on Google Plus

About Chanachai

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น